โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

LISA BLACKPINK โพสต์ถึงความทรงจำวัยเด็กว่า วันเด็กต้องนี่เลย ทำให้นมหนองโพหาซื้อยาก

THE CAVE – นางนอน หนังหมูป่าติดถ้ำ เริ่มถ่ายทำแล้ว

การดำเนินคดีแบบกลุ่ม

การดำเนินคดีแบบกลุ่ม-ฟอร์ดชดใช้ค่าเสียหาย 23 ล้านบาท

การดำเนินคดีแบบกลุ่มอาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ก็ได้มีกฎหมายบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 132 ตอนที่ 28 ก หน้า 1 วันที่ 8 เมษายน 2558

ซึ่งการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2558 โดยบัญญัติไว้ในมาตรา 222/1 ว่า กลุ่มบุคคล หมายความว่า บุคคลหลายคนที่มีสิทธิอย่างเดียวกันอันเนื่องมาจากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเดียวกันและมีลักษณะเฉพาะของกลุ่มเหมือนกัน แม้ว่าจะมีลักษณะของความเสียหายที่แตกต่างกันก็ตาม

การดำเนินคดีแบบกลุ่ม หมายความว่า การดำเนินคดีที่ศาลอนุญาตให้เสนอคำฟ้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาแสดงสิทธิของโจทก์และสมาชิกกลุ่ม

จากบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่แก้ไขปี พ.ศ 2558 ทำให้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีพิพากษาให้บริษัทฟอร์ดชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 23 ล้านบาท แก่ผู้เสียหายทั้งหมด 296 ราย และอีก 12 ราย ให้ยกฟ้อง

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่ผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดรุ่นเฟียสต้าและรุ่นโฟกัส รวม 308 ราย ยื่นฟ้องบริษัทฟอร์ด เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส ประเทศไทย แบบกลุ่มในข้อหาสินค้าชำรุดบกพร่อง สินค้าไม่ปลอดภัย เนื่องจากการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชำรุดบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน และไม่เป็นไปตามคำโฆษณาและทำให้ผู้บริโภคเสียหาย

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า บริษัทฟอร์ดประกอบและผลิตรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ออกมาจำหน่ายในประเทศไทยจำนวน 90,000 คันต่อปี แต่มีรถยนต์ที่มีปัญหาไม่เกิน 500 คันเท่านั้น และยังไม่มีผู้เสียหายรายใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ทางบริษัทฟอร์ดจะยอมรับว่ามีข้อบกพร่องชำรุดในเรื่องชุดคลัทช์และ โมดุลเกียร์ แต่ก็เป็นปัญหาที่สามารถซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ได้ ยังไม่ถือว่ารถยนต์ทั้ง 2 รุ่น เป็นสินค้าที่ไม่มีความปลอดภัย หรือไม่ได้มาตรฐาน ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งให้ทางบริษัทฟอร์ด ซื้อคืนรถที่มีปัญหาจากผู้เสียหาย ห้ามจำหน่าย หรือเรียกเก็บรถทั้ง 2 รุ่น ที่ยังอยู่ในท้องตลาดได้

แต่ศาลให้ทางบริษัทฟอร์ดชดใช้ค่าเสื่อมราคาจากการซ่อมครั้งละ 20,000 บาท และค่าขาดประโยชน์จากการไม่ได้ใช้รถระหว่างซ่อมวันละ 1,000 บาท ให้กับโจทก์และสมาชิกกลุ่มรวมทั้งสิ้น 296 ราย ตกรายละ 15,000 ถึง 240,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 23 ล้านบาท และให้จ่ายดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง โดยให้ชำระเงินคืนให้กับผู้เสียหายภายใน 7 วัน

ซึ่งผู้เสียหายอีก 12 ราย ศาลให้ยกฟ้อง เพราะเห็นว่าผู้เสียหายนำรถยนต์ไปดัดแปลงสภาพติดตั้งระบบแก๊ส LPG จำนวน 6 ราย และไม่เคยนำรถยนต์เข้าซ่อมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนชุดคลัทช์และกล่องควบคุมโมดุลเกียร์ที่มีปัญหา

จากคำตัดสินของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ในคดีนี้ ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งในประเทศไทยมีบุคคลที่เสียหายเพราะเหตุอย่างเดียวกันเป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการดำเนินคดีของผู้เสียหายในแต่ละราย ที่จะต้องแยกฟ้อง ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาในการพิจารณาคดี การดำเนินคดีแบบกลุ่ม จะทำให้การพิจารณาคดีรวดเร็วขึ้น

ผมเชื่อว่า ในอนาคตจะต้องมีการยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มต่อศาลมากขึ้นเรื่อยๆ








อ้างอิงจาก:สำนักข่าวไทย

ความคิดเห็น