ไปรษณีย์ไทย
ทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เราใช้ชีวิตอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ต แม้แต่การค้าขาย
ต่าง ๆ ที่ทำกำไรเป็นหลักล้านบาท บางร้านก็ไม่มีหน้าร้านเลย สิ่งที่เราเรียกกันว่า
E-commerce ได้เปลี่ยนโลกการทำธุรกิจไปแล้ว
และการที่ E-commerce ได้เปลี่ยนโลกธุรกิจไปนั้น ทำให้ธุรกิจหนึ่งที่โตไปพร้อมกับเทรนด์นี้ นั่นก็คือธุรกิจไปรษณีย์ไทย
การขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจ Logistic เติบโตมากขึ้น การขนส่งพัสดุรายย่อย คาดการณ์ว่าปัจจุบันมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 27,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 10 – 20% ต่อปี
ไปรษณีย์ไทย ยังคงรักษาบัลลังก์ผู้นำในตลาดขนส่ง E-Commerce ด้วยส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 55% และถ้าเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด
ไปรษณีย์ไทย มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 70% ส่วนถ้าเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีส่วนแบ่งการตลาด 40%
ขณะที่ผลประกอบการในปี 2560 ไปรษณีย์ไทย มีกำไรสุทธิ 4,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2559 ที่ทำได้ 3,500 ล้านบาท ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าหมายมีกำไรสุทธิ 4,400 – 4,500 ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้ผลกำไรของไปรษณีย์ไทยเติบโต เป็นเพราะมีการส่งของมากขึ้น โดยของที่มาส่งกับไปรษณีย์ไทย แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
1. ซองจดหมาย เอกสาร ซึ่งปริมาณการส่งจดหมายไม่ลดลง ซึ่งสว่นใหญ่จะเป็นจดหมายทางธุรกิจ เพียงแต่การเติบโตลดลง โดยบริการด้านนี้คิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้ไปรษณีย์ไทย
2. พัสดุกล่อง และบริการ EMS โดยส่วนใหญ่เป็นพัสดุการค้าออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วน 50%
ส่วนอีก 20% เป็นบริการด้านการเงิน และค้าปลีก สำหรับบริการการเงิน คือ ธนาณัติ ซึ่งเป็นบริการดั้งเดิมของไปรษณีย์ไทย ที่ปัจจุบันพัฒนาเป็นธนาณัติออนไลน์ ขณะที่บริการค้าปลีก คือ แสตมป์ของไปรษณีย์ไทย เป็นสินค้าขายดีมาก ทั้งยังเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครทำได้ สวยงาม น่าสะสม และเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างดี สิ่งสำคัญที่ทำให้ไปรษณีย์ไทยครองการเป็นผู้นำในด้านนี้ นั้นมาจาก
-ความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ไทย ทั้งที่ทำการไปรษณีย์ไทย ที่ดำเนินการเอง กว่า 1,300 แห่ง และ ที่ทำการไปรษณีย์เอกชนอนุญาต อีกกว่า 3,000 แห่ง รวมแล้วกว่า 5,000 แห่ง ที่กระจายทั่วประเทศ ศูนย์ไปรษณีย์ จำนวน 18 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายพัสดุ และไปรษณียภัณฑ์ ไปยังพื้นที่ต่างๆ ในภูมิภาคนั้นๆ
ไปรษณีย์ไทยเปิดดำเนินการมาร้อยกว่าปี อยู่คู่ชุมชนและสังคมไทยมายาวนาน ทำให้รู้จักทุกพื้นที่ ทุกชุมชนในประเทศไทย ซึ่งมีเครือข่ายทั่วประเทศ แม้ที่ห่างไกลที่เอกชนไม่ไป แต่ไปรษณีย์ไทยไป เป็นการให้บริการที่ทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันมีจุดให้บริการกว่า 5,000 แห่ง ถือว่าเพียงพอต่อการเข้าถึงแล้ว ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
-บุรุษไปรษณีย์ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 20,000 คน จากจำนวนบุคลากรบริษัทไปรษณีย์ไทยทั้งหมด 35,000 คน โดยบุรุษไปรษณีย์ ถือเป็นกองกำลังสำคัญในการเข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ทั่วไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ผนวกเข้ากับระบบแผนที่ของไปรษณีย์ที่มีการอัพเดทตลอดเวลา ทำให้แต่ละคนมีความชำนาญเส้นทางในโซนที่ตนเองรับผิดชอบ และคุ้นเคยกับคนในชุมชนเป็นอย่างดี
-บริการหลากหลายด้วยวิสัยทัศน์ของไปรษณีย์ไทย ที่วางเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และการให้บริการ Logistics ครบวงจรในอาเซียน จึงได้ขยายการให้บริการที่หลากหลาย เช่น บริการโลจิสโพสต์ ส่งสิ่งของใหญ่ ในราคาประหยัด บริการ EMS ในประเทศ บริการ EMS World ส่งด่วนทั่วโลก บริการ EMS Super Speed แอปพลิเคชัน Prompt post สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ E-Commerce บริการ Same day post ส่งสิ่งของด่วนในกรุงเทพฯ นำส่งเช้า นำจ่ายบ่าย ถึงผู้รับภายในวันเดียว บริการ Drive Thru Post โดยผู้ใช้บริการสามารถส่งของ โดยไม่ต้องลงจากรถ บริการไดเร็คเมล์ เป็นบริการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ และสินค้าตัวอย่างขนาดเล็ก โดยไม่ต้องจ่าหน้าถึงผู้รับ และเข้าถึงผู้รับทุกครัวเรือนทั่วประเทศ โดยใช้ความได้เปรียบเครือข่ายการขนส่ง ซึ่งในอดีตสินค้าอุปโภคบริโภคบางแบรนด์ ใช้บริการไดเร็คเมล์ ในการกระจายสินค้า
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังใช้ความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายจุดให้บริการ ต่อยอดสู่การพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น Pay at Post เป็นบริการรับชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ บริการอร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์ รวมทั้งบริการด้านการเงิน อย่างบริการธนาณัติออนไลน์ และบริการโอนเงินด่วนระหว่างประเทศ ที่จับมือกับ Western Union
-นโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อยกระดับสินค้าเอกลักษณ์ท้องถิ่น ในข้อนี้ไม่ได้เป็นกลยุทธ์ในเชิงธุรกิจ แต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่ช่วยสร้าง Engagement หรือความผูกพันระหว่างไปรษณีย์ไทย กับคนในชุมชนจังหวัดต่าง ๆ ทั่วไทยได้ ภายใต้โครงการ ไปรษณีย์ไทย…เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง เกิดขึ้นจากความตั้งใจของไปรษณีย์ไทยที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการสร้างสรรค์ชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ผนวกกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และใช้ศักยภาพของเครือข่ายคนไปรษณีย์ และที่ทำการไปรษณีย์ ทำหน้าที่เชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น มาร่วมกันยกระดับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยที่มีผลิตภัณฑ์ชุมชน อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยทำ Co-brand ไปรษณีย์เพิ่มสุข ร่วมกับแบรนด์สินค้าท้องถิ่น ประทับบนบรรจุภัณฑ์รายได้ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ปี 2557 รายได้ 21,823 ล้านบาท กำไร 1,780 ล้านบาท นำส่งรัฐ 949 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 23,020 ล้านบาท กำไร 2,447 ล้านบาท นำส่งรัฐ 545 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 25,976 ล้านบาท กำไร 3,499 ล้านบาท นำส่งรัฐ 891 ล้านบาท
ในปี 2560 ที่ผ่านมาคาดว่า รายได้ของไปรษณีย์ไทยอยู่ราว ๆ 4,222 ล้านบาทซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า ไปรษณีย์ไทย จะกลับมามีกำไรได้อย่างทุกวันนี้ เพราะจะเห็นว่าตอนที่เริ่มไม่มีคนส่งจดหมายถึงกันแล้ว ไปรษณีย์ไทยก็ยกเลิกบริการส่งโทรเลข และก็ดูเหมือนว่ากำลังจะขาดทุน จนธุรกิจ E-Commerce เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยอย่างมาก จนเกิดมีคู่แข่งของไปรษณีย์ไทย เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ไปรษณีย์ไทยจะสามารถเป็นอันดับหนึ่งในสายนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะคู่แข่งต่างก็วิ่งไล่ตามหลังมาติด ๆ
อ้างอิงจาก:http://longtunman.com/3275 อ้างอิงจาก:https://www.brandbuffet.in.th/2018/02/thailandpost-key-success-factors/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น