หุ้นไทยวันนี้ร่วงเกือบ 20 จุด สวนทางกับตลาดโลก
สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (
SET) วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2018 ปิดที่
1,614.99 จุด ปรับตัวลดลง
-19.89 จุด คิดเป็น
-1.22% จุดสูงสุดอยู่ที่
1,642.20 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่
1,612.91 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 52,464.12 ล้านบาท ส่วนดัชนี
SET50 ปิดที่
1,074.20 จุด ปรับตัวลดลง
-15.00 จุด
ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น
0.64% เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จีนเตรียมเปิดตลาดให้บริษัทต่างชาติมากขึ้น โดยความคืบหน้าด้านการค้าของทั้งสองประเทศได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นโบอิ้งและหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าในต่างประเทศของสหรัฐ ขณะที่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีซึ่งมีการลงทุนจำนวนมากในประเทศจีนนั้น ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มรถยนต์ยังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับข่าวจีนเตรียมปรับลดภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะเดียวกันตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันนี้
เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งสูงขึ้น
1.23% เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดพุ่งสูงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา รวมทั้งแนวโน้มที่ผ่อนคลายลงของสงครามการค้าจีนและสหรัฐ
นิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น
0.99% โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า หลังจากที่สื่อรายงานว่า จีนอาจทบทวนนโยบาย Made in China 2025 เพื่อเปิดทางให้บริษัทต่างชาติสามารถเข้าถึงตลาดจีนได้มากขึ้น
โดยหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ในวันนี้1. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย
7,630.02 ล้านบาท ลดลง
-9.00 บาท คิดเป็น
-6.72%2. PTT มูลค่าการซื้อขาย
5,156.00 ล้านบาท ลดลง
-1.50 บาท คิดเป็น
-3.06%3. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย
1,950.20 ล้านบาท ลดลง
-6.00 บาท คิดเป็น
-3.48%4. SCC มูลค่าการซื้อขาย
1,874.04 ล้านบาท ลดลง
-16.00 บาท คิดเป็น
-3.64%5. KBANK มูลค่าการซื้อขาย
1,815.71 ล้านบาท ลดลง
-2.00 บาท คิดเป็น
-1.05%ดัชนีมีการแกว่งตัวแคบ ๆ ในช่วงเช้าหลังจากดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันไม่ได้ ในขณะที่ในช่วงบ่ายท้ายตลาดดัชนีเริ่มถูกขายทำกำไรอย่างหนัก กดให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาทำ
New low ในรอบ 8 วัน โดยเป้าหมายการอ่อนตัวรอบนี้จะอยู่แถว ๆ จุดต่ำสุดเดิมประมาณ
1,600 จุด ซึ่งเป็นบริเวณของเส้น
BollingerBottom ด้วย ดังนั้น หากดัชนีไม่ดีดกลับขึ้นไปยืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถว ๆ
1,630 จุดให้ได้เป็นอย่างน้อยก่อน มีโอกาสที่ดัชนีจะซึมลงต่อเนื่องแถว ๆ
1,600 จุด
MISCELLANEOUS คิดว่าเหตุปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย
ร่วงเกือบ 20 จุด น่าจะมาจากการที่นักลงทุนรอดูทิศทางทางการเมือง แม้จะมีการปลดล๊อคให้สามารถหาเสียงได้แล้วก็ตาม และอีกเหตุปัจจัยหนึ่งน่าจะเป็นการรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปในคืนนี้
อ้างอิงข้อมูลและภาพจาก:https://news.mthai.com/economy-news/stock-exchange
อ้างอิงข้อมูลและภาพจาก:https://www.khaosod.co.th/stock-monitor/news_1951409
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น